ความทรงจำครั้งสุดท้าย - ความทรงจำครั้งสุดท้าย นิยาย ความทรงจำครั้งสุดท้าย : Dek-D.com - Writer

    ความทรงจำครั้งสุดท้าย

    เมื่อเวลาผ่านไป แต่ความรักไม่ผันตาม หากแต่กฎแห่งชีวิตไม่ยอมให้เป็นเช่นนั้น พลิกผันโผให้เกิดความเศร้าโศก จนยากนักจะหักห้ามใจ

    ผู้เข้าชมรวม

    777

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    777

    ความคิดเห็น


    15

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักดราม่า
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  9 ธ.ค. 47 / 21:41 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      เขาไม่ติดต่อกลับมากี่วันแล้วนะ จะรู้มั้ยว่าฉันเป็นห่วงและคิดถึงเขาขนาดไหน
           รตีคิดพลางถอนหายใจ
           “คิดถึงใครอยู่หรือครับ” เสียงทุ้มๆดังขึ้นด้านหลัง
           “พี่โต…” รตีหันไปมองต้นเสียงด้วยความดีใจ
           “ผมต้นครับ ไม่ใช่โต” ชายหนุ่มในเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีฟ้าตอบด้วยท่าทางสบายๆ

           ต้นกับโตเป็นฝาแฝดกัน เขา 2 คนมีลักษณะคล้ายกันมาก ทั้งรูปร่าง หน้าตา น้ำเสียง และนิสัย จนกระทั่งน้อยคนนักที่จะแยกเขาทั้งคู่ออก ว่าใครเป็นใคร อีกทั้งด้วยความที่มีหน้าตาและบุคลิกค่อนข้างดี มีผิวขาวเนียน ตัวสูงโปร่ง เรียกได้ว่าใครผ่านไปมาเป็นจะต้องมองจนเหลียวหลังกันทุกคน

           “รตีคงจะคิดถึงโตมากเลยสินะครับ ถึงได้มองผมเป็นเขาได้”
           “……….” รตีไม่ตอบว่าอะไร แต่ในเวลานี้ รอยยิ้มที่แต้มบางๆได้จางหายไปแล้ว แทนที่ไว้ด้วยความเศร้าและเหงาที่บ่งบอกถึงความคิดถึงใครบางคน เธอหันหน้ากลับไปมองหน้าต่างบานใหญ่ของห้องบนคอนดูสูงแห่งนี้
           “พี่โตได้ส่งข่าวมาถึงพี่ต้นบ้างมั้ยคะ ไม่รู้ว่าตอนนี้จะเป็นยังไงบ้าง ไม่ส่งข่าวคราวมาบ้างเลย” รตีถามทั้งๆที่ยังทอดสายตาเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง
           บัดนี้ แสงสีส้มจากดวงอาทิตย์เริ่มจะจับขอบฟ้า และทอแสงกว้างไกลออกไปให้ครอบคลุมทั่วผืนฟ้านั้น ยานพาหนะบนท้องถนนเบื้องล่าง ต่างก็วิ่งกันไปบนเส้นทางยาวไกลที่ไม่รู้ว่าจะไปสิ้นสุด ณ แห่งหนใด
           ชายหนุ่มเดินเข้ามาสวมกอดเบาๆที่ด้านหลังของสาวร่างบางเบื้องหน้า
           รตีรู้สึกถึงไออุ่นแสนคุ้นเคยที่เธอถวิลหา เธอค่อยๆหันกลับไปมองหน้าคนที่สวมกอดเธอด้านหลัง
           “พี่โตอ่ะ มาหลอกรตีได้ รู้มั้ยว่าตอนที่รตีไม่รู้ข่าวของพี่โตเลย รตีรู้สึกยังไง”
           “แล้วรู้สึกยังไงล่ะครับ”
           “ก็รู้สึก……………” รตีหน้าแดง แล้วก้มหน้าหลบตาชายหนุ่ม พร้อมกับทุบเบาๆที่อกของคนที่เธอแสนรักแสนคิดถึง
           “พี่โตก็… รู้แล้วยังแกล้งถามอีก”
           “คิดถึงจัง” ทั้งสองเอ่ยขึ้นพร้อมกัน แล้วต่างก็มองสบตาของกันและกันและยิ้มอย่างมีความสุข
           \"พี่โต คืนนี้รตีจะทำของโปรดของพี่โตให้ทานนะ”
           “หืม? พี่ไม่อยู่พักเดียว เราทำอาหารเป็นแล้วรึ”
           “แหะๆ แน่นอนสิ ใครจะอยู่เฉยๆ แล้วให้พี่โตก้าวหน้าอยู่คนเดียวล่ะ ช่วงที่พี่โตไม่อยู่นะ รตีฝึกทำอาหารตั้งหลายอย่างล่ะ รับรองได้เลยว่า พี่โตต้องติดใจแน่”
           “ดีแล้วล่ะ อย่างนี้พี่ค่อยหายห่วงหน่อย”
           “เอ๊ะ?”
           “เอ่อ… ไม่มีอะไร รตีไปทำอาหารเถอะ พี่จะรอชิมฝีมือรตีไม่ไหวอยู่แล้ว”
           “ไม่รู้ล่ะ ไม่ไหวยังไงก็ต้องรอด้วย”
           “พี่กลัวแต่ว่า พี่จะอดใจชิมแม่ครัวก่อนจะชิมอาหารไม่ได้น่ะสิ”
           “พี่โต!” รตีหน้าแดงก่ำ แล้วขว้างหมอนเล็กๆที่อยู่ใกล้ๆมือใส่ชายหนุ่ม ก่อนจะเดินเข้าครัวแล้วเริ่มลงมือทำอาหาร

           ระหว่างที่รตีทำอาหาร ชายหนุ่มก็นั่งรอและครุ่นคิดถึงเรื่องของเขาและรตีอยู่ที่โต๊ะอาหาร ซึ่งเขาจัดไว้สำหรับอาหารมื้อค่ำไว้เรียบร้อยแล้ว
           “มาแล้วค่ะ อาหารชั้นยอดจากแม่ครัวมือหนึ่ง” เสียงรตีดังลอดผ่านความคิดของโต
           “คิดอะไรอยู่หรือคะ พี่โต ทำหน้าเครียดเชียว”
           ชายหนุ่มไม่ตอบว่าอะไร เพียงแต่ยิ้มให้หญิงสาว
           “เรื่องงานรึเปล่า พักบ้างเถอะนะคะ รตีเป็นห่วงนะนี่”
           “พี่ดีใจนะ ที่รตีเป็นห่วงพี่”
           “ก็แน่ล่ะสิ ไม่ห่วงพี่ แล้วจะให้รตีไปห่วงใครล่ะ”
           โตมองตาอย่างต้องการจะบอกความรู้สึกที่อยู่ในใจลึกๆให้กับรตี และจับมือของรตีที่วางอยู่บนโต๊ะอย่างทะนุถนอม
           “พี่อยากให้รตีห่วงตัวเองมากๆนะ ดูแลตัวเองให้ดีๆ จำไว้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ขอให้รตีคิดเสมอว่า ชีวิตของรตีมีค่ากับพี่เสมอ ไม่ว่าวันนั้น พี่จะอยู่หรือไม่ก็ตาม”
           รตีรู้สึกใจหายกับคำพูดที่ได้ฟังเมื่อสักครู่
           “ทำไมพี่โตพูดอย่างนั้นล่ะคะ มีอะไรเหรอ? เกิดอะไรขึ้น”
           “รตี พี่รักรตีเสมอนะ ไม่ว่ารตีจะเป็นยังไง พี่จะอยู่กับรตีตลอดเวลา และรตีก็จะอยู่กับพี่ตลอดไปเช่นกัน  ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ตาม ตรงนี้…” ชายหนุ่มเลื่อนมือของตนที่กุมมือของหญิงสาวอยู่ไปแนบกับอก
           “ตรงหัวใจของเรา ตราบเท่าที่รตีจะไม่ลืมพี่ พี่ก็จะอยู่กับรตีเสมอ เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป”
           “พี่โต….. วันนี้พี่โตพูดแปลกๆ พี่โตจะบอกอะไรรตีกันแน่” สีหน้าของรตีบ่งบอกถึงความสับสนที่ก่อตัวขึ้นอย่างชัดเจน
           “อีกไม่นาน รตีก็คงรู้ และเมื่อถึงเวลานั้น ก็คงจะถึงเวลาที่พี่ต้องไป”
           “เวลาอะไร…… ทำไมล่ะคะ พี่จะไปไหน พี่จะทิ้งรตีไปที่ไหน” รตีถามทั้งน้ำตาที่ปริ่มไหลออกมา
           \".....\"
           “พี่โต พี่โตบอกรตีสิคะ พี่โต พี่โตจะไปที่ไหน ไม่รู้ล่ะ พี่โตไปไหน รตีก็จะไปด้วย” คำพูดเจือเสียงสะอื้นพรั่งพรูออกจากปากของสาวน้อย
           “รตี ฟังพี่นะ รตีจะต้องมีชีวิตเพื่อพี่ ไม่ว่าพี่จะเป็นยังไง ขอให้รตีมีสติ และใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่า คิดซะว่า รตีใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่าแทนส่วนของพี่ด้วยละกัน”
           “พี่โต…………. ทำไมพูดอย่างนั้นคะ รตีงงไปหมดแล้ว มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ รตีรู้สึกใจไม่ดีเลยนะ รู้มั้ยตั้งแต่วันที่พี่ไป รตีคิดถึงพี่ขนาดไหน รตีเฝ้าแต่รอคอยข่าวคราวที่พี่ส่งมาถึงทุกวันๆ แต่มาวันนึงอยู่ๆพี่ก็เงียบหายไป รู้มั้ยเวลานั้นรตีรู้สึกใจหาย รู้สึกแปลก เป็นห่วงพี่ขนาดไหน กังวลไปหมดว่าพี่จะเป็นอะไรไป อยู่ทางนั้นพี่จะได้พักผ่อนรึเปล่า ดูแลตัวเองดีพอรึยัง ถ้าพี่เจ็บป่วยไปใครจะดูแลรักษา จนเมื่อพี่กลับมารตีถึงได้วางใจหน่อย แล้วนี่พี่ก็ยังจะจากรตีไปอีกเหรอ”
            รตีระบายความรู้สึกที่อัดอั้นอยู่ในใจออกมาพร้อมเสียงร้องไห้โฮอย่างเต็มที่ ใบหน้าของหญิงสาวในเวลานี้เต็มไปด้วยรอยน้ำตาแห่งความเศร้าโศก
           “อีกไม่นานหรอก รตี เธอก็จะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่สัญญากับพี่ได้มั้ย ว่ารตีจะดูแลตัวเอง รักตัวเอง และใช้ชีวิตของรตีอย่างมีค่าที่สุด มีความสุขที่สุด สัญญากับพี่ได้มั้ย” โตพูดด้วยน้ำเสียงที่แสดงออกถึงความเป็นห่วงและความจริง ความห่วงหาที่มีให้รตี

           กริ๊งงงงงงงงงงง………..กริ๊งงงงงงงงงๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ชายหนุ่มแสดงท่าทางบอกให้ รตีไปรับ
           รตีสูดลมหายใจลึกๆก่อนจะกรอกเสียงเข้าไปในโทรศัพท์
           “สวัสดีค่ะ”
           “ครับ คุณรตี  เจริญสุขภิรมย์ ใช่มั้ยครับ”
           “ใช่ค่ะ”
           “ผมมีข่าวของสามีคุณมาแจ้งให้ทราบนะครับ กรุณาทำใจดีๆไว้นะครับ”
           รตีเงียบไป แล้วหันหน้าไปมองสามีของตนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะกินข้าว
           ครั้นเสียงทางปลายสายรู้สึกว่าอีกฝ่ายเงียบไปจึงถามว่า
           “ฮัลโหล เอ่อ… คุณรตีครับ ยังฟังอยู่รึเปล่าครับ”
           “อ๊ะ! ค่ะๆ มีอะไรเหรอคะ” รตีตอบกลับ หน้าของเธอเริ่มถอดสี และซีดลงเมื่อได้ยินข้อความที่ตามมา
           “สามีของคุณ คุณก้องเกียรติ เจริญสุขภิรมย์ เสียชีวิตแล้วด้วยอุบัติเหตุ ขณะกำลังเดินทางกลับจากที่ทำงานครับ”
          
           ฉับพลัน โลกทั้งใบของรตีเหมือนจะเป็นสีขาว ไม่มีอะไรอยู่ในนั้น ทั้งเบื้องหน้า และในความคิดจินตนาการทั้งสิ้น
           รตีสับสนจับต้นชนปลายไม่ถูก มองโทรศัพท์และชายหนุ่มที่โต๊ะอาหารสลับไปมาอย่างคนที่กำลังลำดับความคิด
           “ถ้าหากรักของเราไม่สามารถสมหวังได้ในชาตินี้ ก็ขอให้ไปสู่โลกที่ไม่มีใครจะมาขัดขวางได้อีก หากชาติหน้ามีจริงฉันใด ขอให้เราทั้งสองได้ครองคู่กันตลอดไปฉันนั้น เวลาของผมหมดลงแล้ว ขอให้รตีจดจำคำที่ผมได้ขอไว้นะ ผมรักคุณ รตี สุดที่รักของผมตลอดกาล”
           ร่างของโตค่อยๆจางหายไป รตีรีบทิ้งโทรศัพท์แล้ววิ่งเข้าไปหาชายหนุ่ม หมายจะกอดร่างนั้นไว้ไม่ให้จากไปไหน แต่เมื่อถึงเวลา ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถฝืนกฎแห่งชีวิตไว้ได้ วิญญาณของโตกลายเป็นกลุ่มควันก่อนจะจางหายไป ทิ้งไว้แต่เพียงความเศร้าในใจของรตี และความทรงจำครั้งสุดท้าย
           “มีชีวิตแทนส่วนของผมด้วย สุดที่รักของผมตลอดกาล” เสียงนั้นยังดังก้องอยู่ในใจของรตี ในความรู้สึกเขายังอยู่กับเธอเสมอ ไม่ได้หายไปไหน ไออุ่นแห่งรักจะยังคงติดตราตรึงในใจเธอไปอีกนานแสนนาน

                  รัก…เอยเคยสุขล้น                  สุดรัก
                  ตราบ…จิตเจ้าหยุดพัก              สุดแท้
                  สิ้น…ชีพไป่สิ้นรัก                     ม้วยมอด หมดแฮ
                  ลม…รักจักสานแม้                  จบไร้ ชีวัน

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×